
20
Oct
ญี่ปุ่น
เตรียมตัวก่อนเที่ยวญี่ปุ่น! ระบบ Tax Refund แบบใหม่ เริ่มใช้ พ.ย. 2026
หากคุณมีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นหลังเดือนพฤศจิกายน 2026 บอกเลยว่ามีเรื่องสำคัญต้องรู้! ญี่ปุ่นเตรียมปรับระบบภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนจาก Tax Free เป็น Tax Refund แล้วนะครับ ✨
ไม่ต้องตกใจ เราสรุปมาให้ครบ เข้าใจง่าย พร้อมคำแนะนำแบบนักเดินทางตัวจริง!
- อะไรคือความเปลี่ยนแปลง?
ระบบเดิม (Tax Free)
จ่ายค่าสินค้าแบบไม่รวมภาษี ณ จุดซื้อ
ยกเว้นภาษีทันทีเมื่อแสดงพาสปอร์ต
- วิธีขอคืนภาษีแบบใหม่ (Tax Refund)
1.ช้อปปิ้งตามปกติ
ซื้อของที่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ แล้วจ่ายเต็มราคาพร้อมภาษี
2.เก็บใบเสร็จให้ดี
ใบเสร็จ = หลักฐานสำคัญ ห้ามหายเด็ดขาด!
3.ขอคืนภาษีที่สนามบิน
ก่อนขึ้นเครื่อง แวะเคาน์เตอร์ Tax Refund หรือตู้ Kiosk
-แสดงพาสปอร์ต
-ใบเสร็จ
-สินค้า ที่ยังไม่แกะหรือใช้งาน
4.รับเงินคืน
รับเป็นเงินสดเยน หรือโอนเข้าบัตรเครดิตก็ได้
✅ เงื่อนไขที่ควรรู้ก่อนเดินทาง
-ต้องเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อยู่ในญี่ปุ่นไม่เกิน 6 เดือน
-ซื้อของขั้นต่ำ 5,000 เยน ต่อร้าน ถึงจะขอคืนภาษีได้
-ไม่มีแยกประเภทสินค้า แล้ว (ไม่ต้องจำว่าอันไหนเป็นของใช้ ของกิน ฯลฯ)
-ต้องนำสินค้า ออกนอกญี่ปุ่นภายใน 90 วัน
-เฉพาะสินค้าที่ซื้อจากร้านที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น
ทริคจากนักเดินทางตัวจริง
⏰ ไปถึงสนามบินให้เร็วขึ้น – ขั้นตอน Tax Refund อาจมีคิว
ห้ามแกะหรือใช้งานของที่ซื้อ ก่อนทำเรื่องขอภาษีคืน
เช็กข้อมูลล่าสุด จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นหรือสนามบินที่ใช้บริการ
ถ้าช้อปหนัก แนะนำให้แยกของที่ทำ Tax Refund ไว้ในกระเป๋าถือล่วงหน้า จะได้ไม่ต้องรื้อหาตอนขอคืนภาษี
ทำไมต้องเปลี่ยน?
ญี่ปุ่นต้องการลดปัญหาการนำของปลอดภาษีไปขายต่อในประเทศ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของระบบ Tax Free เดิม โดยระบบใหม่นี้ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใส และสอดคล้องกับแนวทางในหลายประเทศ เช่นในยุโรป
แหล่งข้อมูลที่ควรติดตาม
-เว็บไซต์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น (JNTO)
-เว็บไซต์ของสนามบินที่จะเดินทางออก
-ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะมีป้าย “Tax Refund” ชัดเจน
ใครมีแพลนเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2026 อย่าลืมอัปเดตข้อมูลเรื่องนี้กันไว้ล่วงหน้า จะได้ช้อปอย่างมั่นใจ ไม่มีพลาดเรื่องภาษีแน่นอน!
