Black Ribbon Top Right

เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์ :

09.00 - 18.00 น.

เราช่วยคุณได้

Openchat

Travel License : 21/01045

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดเที่ยวไหนกันบ้างคะ?

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดเที่ยวไหนกันบ้างคะ?

20

Oct

ญี่ปุ่น

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดเที่ยวไหนกันบ้างคะ?

วันนี้แอดมินจะมาแจก 10 พิกัดจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี มีที่ไหนกันบ้างตามมาดูกันเลย.

1.สวนโอนุมะ (Onuma National Park)

อุทยานแห่งชาติโอนุมะ มีขนาดใหญ่โตกว้างขวาง สามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม ถือเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและแหล่งกิจกรรมทางธรรมชาติทั้ง 4 ฤดูกาล โดดเด่นด้วยวิวภูเขาโคะมะงะทาเกะ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฮาโกะดาเตะ ที่อุทยานแห่งชาติโอนุมะมีกิจกรรมน่าสนุกให้ทำมากมาย เช่น ขี่จักรยานชมวิว ล่องเรือรอบทะเลสาบ พายเรือแคนู ตั้งแคมป์ เป็นต้น บริเวณรอบๆทะเลสาบโอนุมะ มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบครัน

เกร็ดความรู้

การเดินทาง: จากสถานีฮาโกดาเตะ ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Ltd. Exp. Hokuto หรือ JR Hohodate Line ไปลงที่สถานีโอนุมะ-โคเอ็น

2.โซอุนเคียว ออนเซ็น (Sounkyo Onsen)

โซอุนเคียว ออนเซ็น เมืองออนเซ็นกลางหุบเขาที่มีชื่อเสียงในฮอกไกโด ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซังมีโรงแรมและเรียวกังที่ให้บริการบ่อแช่น้ำพุร้อนทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง

เกร็ดความรู้

การเดินทาง: จากสถานีซัปโปโร ขึ้นรถไฟด่วนของบริษัทเจอาร์ ไปลงที่สถานีอะซะฮิคะวะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วต่อรถไฟสายเซกิโฮะคุ ไปยังสถานีคามิคะวะ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถบัสโดโฮคุ สายโซอุนเคียว ไปลงที่ป้ายสุดท้ายโซอุนเคียว ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีก็ถึงที่หมาย

3.น้ำตกกินกะและน้ำตกริวเซ (Ginga Falls and Ryusei Falls)

เป็นน้ำตกสองสายที่ไหลลงมาคู่กัน ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น น้ำตกทั้งสองสายนี้ได้ชื่อว่าเป็น น้ำตกคู่สามีและภรรยาแห่งอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : นั่งรถบัสจากคามิคาวาไปยังโซอุนเคียว โดยรถบัสโดโฮคุ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

4.อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง (Daisetsuzan National Park)

อุทยานแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของ เกาะฮอกไกโด เป็น อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดนั้น ชื่อว่า อาซาฮิดาเกะ ในช่วงใบไม้ร่วงก็จะวิวของใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆ

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : นั่งรถบัสจากคามิคาวาไปยังโซอุนเคียว โดยรถบัสโดโฮคุ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

5.เนินชมวิวฮาจิมันซากะ (Hachiman-Zaka Slope)

เป็นถนนปูลาดด้วยพื้นหินทอดตรงจากบนเนินลงไปสู่ทะเลให้ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามระหว่างเดินไปตามทาง เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองฮาโกดาเตะและเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิต

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟซัปโปโร สามารถขึ้นรถไฟ JR ขบวนด่วนพิเศษซูเปอร์โฮะคุโตะ ไปลงที่สถานีฮะโกะดาเตะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที จากนั้นขึ้นรถรางเมืองฮะโกะดาเตะ ไปลงที่สถานีซุเอะฮิโระโจ ใช้เวลาประมาณ 8 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 1 นาทีก็ถึง

6.หุบเขานรกโนโบริเบ็ทสึ ออนเซ็น (Noboribetsu Onsen)

เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด มีเรียวกังชั้นเยี่ยมอยู่มากมาย ที่นี่ถือเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขตอุทยานแห่งชาติชิโคะสึ-โทยะตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบโทยะ และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “จิโกคุดานิ  หรือที่เรียกกันว่า หุบเขานรก” เนื่องจากบริเวณหุบเขาจะมีควันจากน้ำพุร้อนพวยพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา และมีสิ่งน่าสนใจอีกอย่างก็คือรูปปั้นของยักษ์สีแดงกับสีน้ำเงินขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากตั้งอยู่ทั่วเมือง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “ยุคิจิน” โดยมีความเชื่อกันว่ายักษ์เหล่านี้จะช่วยปกป้องคุ้มครองเมือง

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : หากเริ่มต้นจากสถานีซัปโปโรสามารถโดยสารรถไฟสายด่วนซุเปอร์โฮะคุโตไปถึงสถานีโนโบริเบ็ทสึ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสโดนันบัสไปลงที่ป้ายโนโบริเบ็ทสึ ออนเซ็น ใช้เวลา 15 นาทีก็ถึงจุดหมาย

7.มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University)

ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโรช่วงประมาณต้น-กลางเดือนตุลาคม ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะโดดเด่นด้วยทิวทัศน์แนวต้นแปะก๊วยที่เปลี่ยนเป็นสีทองตลอดสองข้างถนนคล้ายกับอุโมงค์

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟซัปโปโรประมาณ 10 นาทีก็ถึงมหาวิทยาลัยฮอกไกโดแล้ว เดินทางง่ายมากๆค่ะ

8.คลองโอตารุ (Otaru Canal)

เมืองท่าเล็กๆในฮอกไกโดมีตึกโกดังเก่าแบบคลาสสิกตั้งเรียงราย ปัจจุบันปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ให้ได้แวะเที่ยวกัน รวมถึงอาคารสไตล์ยุโรปที่มีอยู่มากมาย อาทิ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี เป็นต้นเมืองแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศน่ารักและโรแมนติก มีจุดถ่ายรูปสวยๆ หลายมุม

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟซัปโปโรโดยสารรถไฟ JR Hakodate Line ไปลงที่สถานีโอตารุ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ภายในเมืองมีรถบัสให้บริการ แต่สามารถเดินเที่ยวได้ไม่ยาก

9.สวนนากาจิมะ (Nakajima Park)

เป็นสวนสาธารณะวิวดีบรรยากาศดีและยังเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซัปโปโร นั่งเพลินไปกับวิวริมแม่น้ำ กลางสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่สามารถมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์และชมใบไม้เปลี่ยนรอบๆสวนแห่งนี้ มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นเยอะมาก

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : ลงสถานีรถไฟนากาจิมะ-โคเอ็น

10.บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond)

สระน้ำสีฟ้าของบิเอะสวยงามมาก ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุอะลูมิเนียมที่สะท้อนแสงแดด ผสมกับตะกอนแร่ธาตุจากต้นไม้ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงสีสดใสของใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนลงบนผิวน้ำสีฟ้าทำให้บรรยากาศนั้นสวยงามมาก

เกร็ดความรู้

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟบิเอะ นั่งรถบัสของ Dohoku Bus ไปลงที่ป้าย Shirogane Aoi Ike Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

จำนวนผู้เข้าชม 196 ครั้ง