
20
Oct
ญี่ปุ่น
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโดเที่ยวไหนกันบ้างคะ?
วันนี้แอดมินจะมาแจก 10 พิกัดจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี มีที่ไหนกันบ้างตามมาดูกันเลย.
1.สวนโอนุมะ (Onuma National Park)
เกร็ดความรู้
การเดินทาง: จากสถานีฮาโกดาเตะ ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Ltd. Exp. Hokuto หรือ JR Hohodate Line ไปลงที่สถานีโอนุมะ-โคเอ็น

2.โซอุนเคียว ออนเซ็น (Sounkyo Onsen)
โซอุนเคียว ออนเซ็น เมืองออนเซ็นกลางหุบเขาที่มีชื่อเสียงในฮอกไกโด ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซังมีโรงแรมและเรียวกังที่ให้บริการบ่อแช่น้ำพุร้อนทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง
เกร็ดความรู้
การเดินทาง: จากสถานีซัปโปโร ขึ้นรถไฟด่วนของบริษัทเจอาร์ ไปลงที่สถานีอะซะฮิคะวะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วต่อรถไฟสายเซกิโฮะคุ ไปยังสถานีคามิคะวะ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นโดยสารรถบัสโดโฮคุ สายโซอุนเคียว ไปลงที่ป้ายสุดท้ายโซอุนเคียว ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีก็ถึงที่หมาย

3.น้ำตกกินกะและน้ำตกริวเซ (Ginga Falls and Ryusei Falls)
เป็นน้ำตกสองสายที่ไหลลงมาคู่กัน ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น น้ำตกทั้งสองสายนี้ได้ชื่อว่าเป็น น้ำตกคู่สามีและภรรยาแห่งอุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากคามิคาวาไปยังโซอุนเคียว โดยรถบัสโดโฮคุ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

4.อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง (Daisetsuzan National Park)
อุทยานแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของ เกาะฮอกไกโด เป็น อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ซึ่งมียอดเขาที่สูงที่สุดนั้น ชื่อว่า อาซาฮิดาเกะ ในช่วงใบไม้ร่วงก็จะวิวของใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยมากๆ
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากคามิคาวาไปยังโซอุนเคียว โดยรถบัสโดโฮคุ ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

5.เนินชมวิวฮาจิมันซากะ (Hachiman-Zaka Slope)
เป็นถนนปูลาดด้วยพื้นหินทอดตรงจากบนเนินลงไปสู่ทะเลให้ได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามระหว่างเดินไปตามทาง เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองฮาโกดาเตะและเป็นอีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิต
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟซัปโปโร สามารถขึ้นรถไฟ JR ขบวนด่วนพิเศษซูเปอร์โฮะคุโตะ ไปลงที่สถานีฮะโกะดาเตะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที จากนั้นขึ้นรถรางเมืองฮะโกะดาเตะ ไปลงที่สถานีซุเอะฮิโระโจ ใช้เวลาประมาณ 8 นาที แล้วเดินต่อประมาณ 1 นาทีก็ถึง

6.หุบเขานรกโนโบริเบ็ทสึ ออนเซ็น (Noboribetsu Onsen)
เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด มีเรียวกังชั้นเยี่ยมอยู่มากมาย ที่นี่ถือเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขตอุทยานแห่งชาติชิโคะสึ-โทยะตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบโทยะ และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “จิโกคุดานิ หรือที่เรียกกันว่า หุบเขานรก” เนื่องจากบริเวณหุบเขาจะมีควันจากน้ำพุร้อนพวยพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา และมีสิ่งน่าสนใจอีกอย่างก็คือรูปปั้นของยักษ์สีแดงกับสีน้ำเงินขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากตั้งอยู่ทั่วเมือง ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “ยุคิจิน” โดยมีความเชื่อกันว่ายักษ์เหล่านี้จะช่วยปกป้องคุ้มครองเมือง
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : หากเริ่มต้นจากสถานีซัปโปโรสามารถโดยสารรถไฟสายด่วนซุเปอร์โฮะคุโตไปถึงสถานีโนโบริเบ็ทสึ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที จากนั้นขึ้นรถบัสโดนันบัสไปลงที่ป้ายโนโบริเบ็ทสึ ออนเซ็น ใช้เวลา 15 นาทีก็ถึงจุดหมาย

7.มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University)
ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโรช่วงประมาณต้น-กลางเดือนตุลาคม ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะโดดเด่นด้วยทิวทัศน์แนวต้นแปะก๊วยที่เปลี่ยนเป็นสีทองตลอดสองข้างถนนคล้ายกับอุโมงค์
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟซัปโปโรประมาณ 10 นาทีก็ถึงมหาวิทยาลัยฮอกไกโดแล้ว เดินทางง่ายมากๆค่ะ

8.คลองโอตารุ (Otaru Canal)
เมืองท่าเล็กๆในฮอกไกโดมีตึกโกดังเก่าแบบคลาสสิกตั้งเรียงราย ปัจจุบันปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า และร้านอาหาร ให้ได้แวะเที่ยวกัน รวมถึงอาคารสไตล์ยุโรปที่มีอยู่มากมาย อาทิ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี เป็นต้นเมืองแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศน่ารักและโรแมนติก มีจุดถ่ายรูปสวยๆ หลายมุม
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟซัปโปโรโดยสารรถไฟ JR Hakodate Line ไปลงที่สถานีโอตารุ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ภายในเมืองมีรถบัสให้บริการ แต่สามารถเดินเที่ยวได้ไม่ยาก

9.สวนนากาจิมะ (Nakajima Park)
เป็นสวนสาธารณะวิวดีบรรยากาศดีและยังเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซัปโปโร นั่งเพลินไปกับวิวริมแม่น้ำ กลางสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่สามารถมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์และชมใบไม้เปลี่ยนรอบๆสวนแห่งนี้ มีมุมให้ถ่ายรูปเล่นเยอะมาก
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : ลงสถานีรถไฟนากาจิมะ-โคเอ็น

10.บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond)
สระน้ำสีฟ้าของบิเอะสวยงามมาก ซึ่งเกิดจากแร่ธาตุอะลูมิเนียมที่สะท้อนแสงแดด ผสมกับตะกอนแร่ธาตุจากต้นไม้ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงสีสดใสของใบไม้เปลี่ยนสีที่สะท้อนลงบนผิวน้ำสีฟ้าทำให้บรรยากาศนั้นสวยงามมาก
เกร็ดความรู้
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟบิเอะ นั่งรถบัสของ Dohoku Bus ไปลงที่ป้าย Shirogane Aoi Ike Iriguchi ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

